top of page
Writer's picturerohit sharma

Tapori ร้านอาหารอินเดียแห่งใหม่เปิดตัวในกรุงเทพฯ ลิ้มรสอาหารหลากหลาย จากถนนในมุมไบไปจนถึงเทือกเขาหิมาลัย

Tapori ร้านอาหารอินเดียต้นตำรับแห่งใหม่ ในซอยสุขุมวิท 47 ที่เงียบสงบและร่มรื่น พร้อมพานักชิมไปสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นทั่วประเทศอินเดีย จากถนนในมุมไบไปจนถึงเทือกเขาหิมาลัย ผ่านเมนูอาหารที่นำเสนอรสชาติอันหลากหลายจากทั่วทุกมุมของประเทศ

Tapori มีความหมายในภาษาฮินดีว่า “นักเดินทาง” หรือเป็นคำสแลง หมายถึง “คนที่น่ารัก ร่าเริง และมีประสบการณ์” คำนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเดินทางของเชฟ โรหิต ชาร์มา  (Chef Rohit Sharma) เจ้าของร้าน เพื่อรวบรวมตำรับอาหารจากทั่วประเทศอินเดีย ที่หลายคนยังไม่เคยรู้จักมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นชาวอินเดียหรือชาวต่างชาติที่ชอบรับประทานอาหารอินเดียก็ตาม


เป็นเวลานานแล้วที่ร้านอาหารอินเดียทั่วโลกพึ่งพาตำราอาหารแบบโมกุล-ปัญจาบ นำเสนอมรดกทางอาหารที่หลากหลายของประเทศในแบบที่ซ้ำซากจำเจ ร้านอาหาร Tapori วางแผนเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น ดังนั้น โปรดคาดหวังในสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนได้เลย เมื่อมาทานอาหารอินเดียที่นี่


เมนูอาหารของ Tapori บ่งบอกถึงภาพรวมของอาหารอินเดียที่หลากหลายของอินเดีย เป็นผลลัพธ์จากประสบการณ์การเดินทางไปทั่วภูมิภาคอินเดียของ เชฟ โรหิต ชาร์มา  สูตรอาหารดั้งเดิมเหล่านี้คัดสรรมาจากทุกภูมิภาคหรือชุมชน เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ บนจานอาหารของคุณ  แต่ละเมนูแสดงถึงรสชาติและเครื่องเทศที่ซับซ้อนได้อย่างมีชีวิตชีวา

ที่นี่จะสร้างประสบการณ์การทานอาหารอินเดียแบบไม่ซ้ำใคร  โดยไม่มีพื้นที่สำหรับอาหารทั่วๆ ไปอย่าง dal makhani, butter chicken หรือ idli-sambar เพราะเมนูของ Tapori  สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับนักชิมที่ต้องการลิ้มลองอาหารอินเดีย ซึ่งไม่เป็นที่รู้จัก จะเรียกว่า เป็นการลิ้มลองครั้งแรกของคุณเลยก็ว่าได้  ทั้งเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยและอาหารจานหลัก รังสรรค์มาอย่างพิถีพิถันเพื่อการรับประทานร่วมกันได้อย่างลงตัว  สามารถสั่งอาหารผสมกันแบบใดก็ได้ เหมือนกับการนั่งทานอาหารค่ำที่บ้านของคุณ


อาหารเรียกน้ำย่อยชวนลิ้มลอง เช่น Kala Chana Ghugni หรือข้าวเม่า (ข้าวชนิดแบน) และถั่วชิกพีดำจากรัฐพิหาร, Siddu (เกี๊ยวยัดไส้) จากรัฐหิมาจัลประเทศ, ปลาหมึกปรุงสไตล์อานธร, เซวิเชหอยเชลล์จากรัฐกัว, Tabak Maas (ซี่โครงแกะติดเนื้อ) จากแคชเมียร์, Kheema Ghotala (เนื้อบดในเครื่องเทศ) จากมุมไบ และ Wahan Mosdeng สลัดเนื้อหมูของรัฐตริปุระ สำหรับเมนูอาหารจานหลักนำเสนอรสชาติของอาหารประจำภูมิภาค เช่น Natukozhi Pulusu ไก่หมักจากรัฐเตลังคานา, Masur Tenga (แกงปลา) รสเปรี้ยวของรัฐอัสสัม, เนื้อผัดพริกสไตล์รัฐเกรละอันโด่งดัง, Lobster Assad จากปุฑุเจรี และ Jadoh ข้าวหมกเนื้อหมู ซึ่งเป็นอาหารเช้าของชาวกาสีทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ


Tapori ไม่นำเสนอเมนูมังสวิรัติแบบ “ง่ายๆ” ที่เพียงแทนอาหารประเภทเนื้อสัตว์ด้วยทางเลือกแบบมังสวิรัติ แต่กลับเสิร์ฟอาหารมังสวิรัติในแบบดั้งเดิม เช่น ผักหัวรวมมิตรปรุงสไตล์คุชราต, Undhiyu เสิร์ฟพร้อมขนมปังแฟลตเบรดเมล็ดลูกซัดและข้าวฟ่าง, Mochar Chop มันฝรั่งบดสอดไส้หัวปลีทอดจากรัฐเบงกอลตะวันตก, Gobhi Musallam (กะหล่ำดอกย่าง) จากรัฐอุตตรประเทศ และ Bajra Khichda โจ๊กถั่วเลนทิลและข้าวฟ่างจากรัฐราชสถานแสนอร่อย และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของทัวร์ชิมอาหารที่ผู้มาเยือนทุกคนสามารถออกแบบได้ด้วยตนเอง


ของหวาน นับเป็นผลงานสร้างสรรค์ชิ้นพิเศษของ  พาสทรีเชฟ ซวาติ ฮาร์ชา ที่ห้ามพลาด เช่น ไอศกรีม Bun-Maska ขนมอันเป็นเอกลักษณ์ประจำร้านกาแฟสไตล์อิหร่านในมุมไบ คาเฟ่เหล่านี้มีชื่อเสียงขึ้นมาจากขนมปังทาเนยที่รับประทานคู่กับชา ซึ่งเป็นเมนูที่เรียบง่าย แต่โดดเด่น ไอศกรีมของ Tapori ถ้วยนี้มอบประสบการณ์น่าอภิรมย์ด้วยส่วนผสมหวานกลมกล่อมจากครีมและรสชาติเข้มข้นของเนยที่สามารถสัมผัสได้ถึงความอร่อยในทุกคำ


ผู้นำในการเล่าเรื่องที่น่าสนใจนี้คือ  เชฟโรหิต ชาร์มา นักเล่าเรื่องด้านการทำอาหารและเชฟเจ้าของร้านที่มากด้วยประสบการณ์ด้านการบริการ เขาได้สร้างสรรค์โครงการเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มโดยใช้ระบบ R4 Hospitality ของเขามาแล้วมากกว่า 100 โครงการ ซึ่งรวมถึงร้านยอดนิยมอย่าง Maroon Room และ Freemasons Brew Works ในเมืองคุวาหาฏี (รัฐอัสสัม) และคาเฟ่ที่เขาร่วมทุนด้วยในคุรุคราม (Delhi NCR) เชฟโรหิต วางแนวความคิดเกี่ยวกับร้านอาหารตั้งแต่ต้นจนจบ โดยดูแลไม่เพียงแต่แนวคิดริเริ่มเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการออกแบบ การตกแต่ง และการสร้างสรรค์เมนูอาหารอันสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและอาหารอินเดียที่หลากหลาย


“ศิลปะแห่งการปรุงอาหารไม่ใช่แค่การทำอาหารเพียงเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการบอกเล่าเรื่องราวที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณ” เชฟชาร์มา กล่าว “ที่ Tapori เราเดินทางข้ามอินเดีย เพื่อช่วยเหลือบรรดาคุณยายและคุณแม่ ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ประเพณีการทำครัวของเรา เราสำรวจรสชาติที่บ่งบอกถึงมรดกของเราสำหรับเมนูที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสูตรอาหารต้นตำรับ ซึ่งสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น อาหารแต่ละจานเป็นตัวแทนของรัฐหรือชุมชนแห่งหนึ่งของอินเดีย และเป็นบทหนึ่งในเรื่องราวของวัฒนธรรมอาหารของอินเดีย ในทุกคำที่คุณสัมผัส เราขอเชิญชวนให้คุณมาค้นพบอินเดียที่ไม่มีใครรู้จัก ยังไม่เคยผ่านการสำรวจ และยังน่าประทับใจในทุกรสสัมผัส”

การตกแต่งภายใน ได้รับการออกแบบตามวิสัยทัศน์ของเจ้าของร้าน ที่ผสมผสานองค์ประกอบสมัยใหม่เข้ากับลวดลายสไตล์อินเดีย เพื่อสร้างบรรยากาศที่หรูหราและอบอุ่น ทั้งยังเป็นส่วนตัวและดูทันสมัย โดดเด่นด้วยประตูไม้โบราณอายุ 200 ปี นำเข้าจากรัฐราชสถาน เป็นการแสดงความเคารพต่อมรดกทางศิลปะอันมั่งคั่งของอินเดีย นอกจากนี้ ยังมีคอลเลกชันงานศิลปะที่นำมาจากประเพณีและวัฒนธรรมอันกว้างขวางของประเทศ มาตกแต่งโดยรอบ ขณะที่ขบวนพาเหรดช้างอินเดียหลากสีสัน ช่วยเติมเต็มความงดงามของรูปแบบการตกแต่งได้อย่างมีสไตล์


จากลวดลายเรขาคณิตของศิลปะวารลี และลวดลายชนเผ่าของบาสตาร์ ไปจนถึงการเล่าเรื่องโดยละเอียดของศิลปะแบบมธุบานี และความมีชีวิตชีวาของศิลปะแบบ Pichwai งานศิลปะแต่ละรูปแบบนี้มีความสำคัญและนำเสนอภาษาภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของอินเดีย ภาพโมเสกกระจกตัดด้วยมือรูปนกยูงสูงตระหง่าน และภาพวาดสีน้ำมันบนผืนผ้าใบรูปผืนน้ำของรัฐเกรละซึ่งมีความยาว 32 ฟุต ทำให้พื้นที่ในร้านดูมีชีวิตชีวาและเชื่อมต่อช่องว่างระหว่างการออกแบบร่วมสมัยและศิลปะแบบดั้งเดิมได้อย่างกลมกลืน

ระเบียงด้านนอกเป็นสถานที่พักผ่อนในการรับประทานอาหารอันเงียบสงบ ผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างไม่มีรอยต่อด้วยฉากหลังของจิตรกรรมฝาผนังที่รวบรวมแก่นแท้ของการเล่าเรื่องอินเดียผ่านสีสันและลวดลายที่สดใส



ร้าน Tapori เปิดบริการเฉพาะมื้อค่ำ  สำรองที่นั่งโทร. +66-645-693-798 อีเมล reservations@taporibkk.com  หรือติดตามความเคลื่อนไหวของร้านผ่าน Instagram: @taporibkk และ  Facebook: taporibkk













5 views0 comments

Comments


bottom of page